วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วิชา การโปรแกรมเว็บ 1

แบบฝึกหัด บทที่1
ตอนที่1
1.อินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกสั้นๆว่าอย่างไร คืออะไร
***อินเทอรืเน็ต เรียกสั้นๆว่า เน็ตคือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องเข้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายไร้พรมแดนใช้โครงสร้างระบบสื่อสาร โทรคมนาคมเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
2.ลักษณะของระบบอินเทอร์เน็ตมีลักษณะะอย่างไร
***อินเทอร์เน็ตอยู่ในลักษณะ ไคลเอนท์-เซิร์ฟเวอร์ คือ มีเครื่องคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่เป็นเซิฟเวอรืคือเครื่องแม่ข่าย
หรือให้บริการกับเครื่องที่เป็นไคลเอนท์ คือ เครื่องลูกข่ายคือผู้ขอใช้บริการมีการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา
3.ไคลเอนท์-เซิร์ฟเวอร์”(Client-Server)คืออะไร
***มีเครื่องคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่เป็นเซิฟเวอรืคือเครื่องแม่ข่าย
4.ชื่อที่อยุ่ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตเรียกกันว่าอย่างไรพร้อมยกตัวอย่าง
***ไอพี แอดเดรส”(IP Address)
5.บอกประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตที่มีต่อเยาชนไทยในปัจจุบัน
***1.การรับ-สัง จดหมายผ่านอินเทอร์เน็ต
        2.ใช้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ใช้ค้นคว้าข่าวสารได้ทั่วโลก
        3.ซื้อสินค้า และ ดุราคาสินค้า ทางอินเทอร์เน็ต
        4.ใช้เพื่อความบันเทิง เช่น เล่นเกมส์ ฟังเพลง
       5.ใช้เอินเทอรืเน็ตเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางเว็บไซต์
6.ยกตัวอย่างภัยจากอินเทอร์เน็ตที่มีต่อเยาชนไทย
***1.สื่อลามกผ่านอินเทอร์เน็ต
      2.การแชท สนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต
    3.การติดเกมส์ออนไลน์
    4.การกระทำที่ไม่เหมาะสมที่เรียกว่าเว็บแคมหรือโชว์สัดส่วนทางแคมฟร้อก
7.เวิลด์ไวด์เว็บ(“World Wide Web หรือ WWW หรือ W3) คืออะไร
***คือพื้นที่ที่เก็บข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมต่อกันทางอินเทอร์เน็ต เป็นแหล่งข้อมูลขนาดยักษ์
ให้บริการทั้งแบบข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ มีการเชื่อมโยงลักษณะคล้ายใยแมงมุม หรือเรียกกันว่า เครือข่ายใยแมงมุม
8.รุปแบบของFTPแบ่งได้กี่แบบอะไรบ้าง
***FTP แบ่งได้ 2 แบบ ได้แก่
1.Download คือการคัดลอกข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์อื่นมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้
2.Upload คือการคัดลอกข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ไปไว้ที่เซิร์ฟเวอร์
9.เว็บบราวเซอร์( Web Browser) หมายถึงอะไร
***คือ โปรแกรมที่ใช้เปิดเว็บเพจ มีหน้าที่ติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์เพื่อขอข้อมูลที่ต้องการมาแสดงที่หน้าจอของโปรแกรม
10.URL (Uniform Resouree Location) คืออะไร ยกตัวอย่างรูปแบบ URL
***คือการเข้าถึงข้อมูลใดๆในอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นเว็บเพจ หรือไฟล์ประเภทอื่นๆที่จะต้องรู้(Address)ของข้อมูลนั้น
ตัวอย่าง URL
1.www.thonburi.ac.th
2.www.sanook.com
3.www.workpoint.co.th

ตอนที่ 2
1.ไอพี่แอดเดรสในอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนข้อใด
ตอบ ค.เลขที่บ้าน
2.เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ตรงกับข้อใด
ตอบ ข.เครื่องแม่ข่าย
3.ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต
ตอบ ข.ส่งพัสดุภัณฑ์
4.เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแหล่งข้อมูลขนาดยักษ์จะพบข้อมูลประเภทใดบ้าง
ตอบ ง.ถูกหมดทุกข้อ
5.ชื่อที่อยู่ของ E-mail เรียกว่าอะไร
ตอบ ค.E-mail Address
6.FTP ย่อมาจากอะไร
ตอบ ง.File TransferProtocol
7.ข้อใดคือความหมายของ FTP
ตอบ  ค.การโอนย้ายข้อมูล
8.การคัดลองข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์มายังเครื่องผู้ใช้หมายถึงข้อใด
ตอบ ข.Download
9.การคัดลอกข้อมูลในเครื่องผู้ใช้ไปไว้ที่เซิร์ฟเวอร์หมายถึงข้อใด
ตอบ ก.Upload
10.ข้อใดหมายถึงการให้บริการแบบทางไกล
ตอบ ข.Remote
11.เว็บเพจหมายถึงข้อใด
ตอบ ข.ไฟล์1ไฟล์คือเว็บเพจ1หน้า
12.เว็บไซต์หมายถึงข้อใด
ตอบ ก.กลุ่มของเว็บเพจหลายหน้า
13.โฮมเพจ หมายถึงข้อใด
ตอบ  ค.เว็บเพจหน้าแรก
14.เว็บเซิร์ฟเวอร์ คือข้อใด
ตอบ ง.ทำหน้าที่เก็บเว็บไซต์
15.ข้อใดคือหน้าที่หลักของดปรแกรมเว็บบราวเซอร์
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ

วิชา ออกแบบพัฒนาเว็บ

แบบฝึกหัด   บทที่  1
 
 
 
 

วิชา การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 1

แบบฝึกหัด   บทที่  1

วิชา ระบบฐานข้อมูล

24 มิถุนายน 2554
ตอนที่1 แบบ ปรนัย
1.ข้อใดกล่าวถึงความหมายของตาราง (Table) ได้ชัดเจนที่สุด
ตอบ     ก. ฐานข้อมูลใน Access
2.ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวผิด
ตอบ   ง. Attachment เป็นชนิดข้อมูลสาหรับสร้างจุดเชื่อมโยงไปยังไฟล์
 3.ฟิลด์ (Field) หมายถึงอะไร
ตอบ  ค. คอลัมน์
4.เรคอร์ด (Record) หมายถึงอะไร
ตอบ   ข. แถว
5.ชนิดข้อมูลแบบข้อความ (Text) สามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดกี่ตัวอักษร
ตอบ    ค. 255
6.ถ้าต้องการกำหนดฟิลด์ในการเก็บข้อความจำนวนมากๆ จะต้องเลือกชนิดข้อมูลแบบใด
ตอบ   ก. Memo
7.มุมมองที่ใช้ในการสร้างตารางด้วยการออกแบบเองคือมุมมองใด
ตอบ  ก. Design View
8.ชนิดความสัมพันธ์ของตารางมีกี่แบบ
ตอบ     ค. 255
9.ข้อใดต่อไปนี้ ไม่สามารถ นามาประกอบในการตั้งชื่อฟิลด์ข้อมูลได้
ตอบ    ค. 4 แบบ
10.ถ้าต้องการเรียงลาดับข้อมูลในตารางจากน้อยไปหามาก จะต้องใช้เครื่องมือใด
ตอบ  ก. Ascending

ตอนที่ 2   จับคู่
1. Field               à                ฌ. ข้อมูลในแนวคอลัมน์
2. Record           à              ง. ข้อมูลในแนวแถว
3. Memo             à               จ. เก็บข้อมูลประเภทข้อความที่มีความยาวมาก ๆ
4. OLE Object   à           ข. เก็บข้อมูลประเภทรูปภาพ
5. Currency        à             ซ. เก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขทางการเงิน
6. Attachment    à             ญ. เก็บเอกสารและแฟ้มไบนารี่ทุกชนิดในฐานข้อมูล
7. Input Mask     à           ก. กำหนดรูปแบบในการป้อนข้อมูล
8. Format           à           ฉ. กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล
9. Descending    à             ช. เรียงลาดับข้อมูลจากมากไปหาน้อย
10. Ascending   à           ค. เรียงลาดับข้อมูลจากน้อยไปหามาก


ตอนที่ 3 แบบอัตนัย
1.งอธิบายถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างตาราง
ตอบ     การสร้างตาราง ลงใน เว็บเพจมีประโยชน์มหาศาล เราสามารถ ประยุกต์ นำไปใช้ได้หลายอย่าง เพื่อเป็นการเพิ่มสีสันความสวยงามของเว็บเพจ การสร้างตาราง ในเว็บเพจก็ไม่แตกต่างจากการสร้างตารางบนแผ่นกระดาษทั่ว ๆ ไป เราเคยทำตารางอย่างไร ก็สามารถสั่งให้เว็บเพจของเรา ทำอย่างนั้นได้ เช่นกัน ต่างกันที่ว่าในเว็บเพจเราไม่สามารถที่จะ นำเอาปากกา ดินสอ ไม้บรรทัด หรืออุปกรณ์ สำหรับเขียนตารางเข้าไปเขียนบนจอภาพได้ เราใช้ นิ้วมือของเรา เป็นผู้พิมพ์คำสั่ง สำหรับสร้างตารางขึ้นมา
2.จงบอกถึงคุณสมบัติในการเลือกฟิลด์ข้อมูลที่จะนำมาเป็นคีย์หลัก (Primary Key)
ตอบ   ฟิลด์ที่มีข้อมูลในเรคอร์ดที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อเป็นตัวกำหนดให้ทุกเรคอร์ดแตกต่างกันและเป็นฟิลด์ที่ไม่เป็นค่าว่าง คือจะต้องมีค่าอยู่เสมอ เช่นรหัสพนักงาน รหัสประจาตัวนักเรียน เป็นต้น

3. อธิบายถึงความแตกต่างในการสร้างตารางด้วยมุมมองการออกแบบ (Table Design) และมุมมองแผ่นตารางข้อมูล (
Datasheet View)
ตอบ มุมมองแผ่นข้อมูล เป็นมุมมองที่แสดงข้อมูลจากตาราง ฟอร์ม แบบสอบถาม วิว หรือ Stored Procedure ในรูปแบบของแถวและคอลัมน์ในมุมมองแผ่นข้อมูล คุณสามารถแก้ไขเขตข้อมูล เพิ่มและลบข้อมูล และค้นหาข้อมูลได้
มุมมองออกแบบ เป็นมุมมองที่แสดงการออกแบบของวัตถุฐานข้อมูลต่อไปนี้ ได้แก่ ตาราง แบบสอบถาม ฟอร์ม รายงาน และแมโคร ในมุมมองออกแบบคุณสามารถสร้างวัตถุฐานข้อมูลใหม่และปรับเปลี่ยนการออกแบบของวัตถุที่มีอยู่แล้วได้

4.
จงบอกขั้นตอนในการสร้างตารางมุมมองการออกแบบว่ามีขั้นตอนอย่างไร
ตอบ     1. คลิกที่แท็บ Create
2. เลือกปุ่มคาสั่ง (Table Design) นกลุ่มของTablesจากนั้น Access จะเปิดตารางข้อมูลเปล่าในมุมมองการออกแบบขึ้นมาให้
3. กำหนดฟิลด์ข้อมูล แล้วกด Tab เพื่อเลื่อนไปยังช่องถัดไป
4. เลือกชนิดข้อมูล
5. กำหนดคาอธิบายฟิลด์
6. กำหนดคุณสมบัติของฟิลด์เพิ่มเติม จากนั้นทาข้อที่ 3 ถึงข้อที่ 6 จนครบทุกฟิลด์ที่ต้องการ
7. คลิกปุ่ม Save จาก Quick Access เพื่อบันทึกตาราง
8. กำหนดชื่อตาราง
9. คลิกปุ่ม OK

วันที่ 6 มิถุนายน 2554
สรุปหน่วยการเรียนรู้ที่ 1

***ความหมายของฐานข้อมูล (Database)
ฐานข้อมูล
หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันและนำมาจัดเก็บในที่เดียวกัน  
ระบบฐานข้อมูล
 หมายถึง  ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน
รูปแบบเป็นระเบียบแบบแผน และจัดเก็บไว้ในที่เดียวกัน
ระบบจัดการฐานข้อมูล
หมายถึง  โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะ ข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่ออำนวยความ            
 สะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล   
ประโยชน์ของฐานข้อมูล
ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล 
ความสอดคล้องของข้อมูล
ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้น 
มีการใช้ข้อมูลร่วมกันได้ 
เพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูล 
ขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน
ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย
ข้อเสียของฐานข้อมูล
1.เสียค่าใช้จ่ายสูง โปรแกรมที่ใช้ในระบบจัดการฐานข้อมูล มีราคาค่อนข้างแพง             
2. เกิดการสูญเสียข้อมูลได้ ข้อมูลจัดเก็บในที่เดียวกัน  ถ้าที่เก็บข้อมูลเกิดมีปัญหา อาจทำให้ต้องสูญเสียข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูลได้ ดังนั้นการจัดทำฐานข้อมูลที่ดี ต้องมีการสำรองข้อมูลไว้เสมอ


หลักการออกแบบฐานข้อมูล
วัตถุประสงค์ในการสร้างระบบฐานข้อมูล
ต้องการใช้เพื่อทำอะไร และต้องการอะไรบ้างจากระบบนี
ถามความต้องการของผู้ใช้ ต้องการข้อมูลอะไรเข้าสู่ระบบ และผลลัพธ์ต้องการอะไรบ้าง
วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด   
จัดกลุ่มข้อมูลที่ต้องการเก็บให้อยู่ในรูปแบบตาราง
วิเคราะห์ข้อมูลแต่ละตาราง กำหนดเขตข้อมูลให้ครบถ้วน

ระดับหน่วยของข้อมูล
บิท (Bit)  หมายถึง  หน่วยของข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สุด
ไบท์ (Byte) หมายถึง เกิดจากการนำบิทมารวมกันเป็นตัวอักษร
เขตข้อมูล หรือ ฟิลด์ (Field) หรือ แอตทริบิวต์ (Attribute)
หมายถึง หน่วยของข้อมูลที่ประกอบด้วยหลาย ๆ ตัวอักษร
ระเบียน หรือ เรคอร์ด (Record)  หมายถึง
หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำเอาเขตข้อมูลหลาย ๆ เขตข้อมูลมารวมกัน
แฟ้มข้อมูล (File) หมายถึง หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำระเบียนหรือเอนทิตี้หลาย ๆ ระเบียนมารวมกันเป็น

ตอนที่1
1.ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร
ข.ตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล
2.หลังจากที่สร้างฐานข้อมูลแล้ว จะต้องสร้างออบเจ็กต์ใดเป็นอันดับแรก
ก.Table
3.ออบเจ็กต์ใดที่ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลทั้งหมดลงฐานข้อมูล
ค.Form
4.ออบเจ็กต์ Query มีหน้าที่ทำอะไร
ค.สร้างแบบสอบถามข้อมูล

5.ข้อใดต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของออบเจ็กต์ Form
ข.เก็บข้อมูลลงฐานข้อมูล

6.ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ กฏของการ Normalization
ข.จะต้องมีความสัมพันธ์แบบเชิงกลุ่ม(Many to Many)
7.ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ที่ได้รับของระบบฐานข้อมูล
ค.ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย

8.ขั้นตอนใดต่อไปนี้เป็นขั้นตอนแรกในการออกแบบฐานข้อมูล
ก.กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

9.ส่วนประกอบต่อไปนี้เพิ่มเข้ามาใหม่ใน Access 2007 ยกเว้น ข้อใด
ง.Ribbon
10.ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวผิด
ก.เมื่อบันทึกฐานข้อมูลในAccsee 2007จะมีนามสกุลเป็น.accdb

ตอนที่ 2
1.DBMS  à  ช.ระบบจักการฐานข้อมูล
2.Normlization  à   จ.กฎที่ใช้ในการออกแบบตาราง
3.Office  Botton    à    ซ.ปุ่มที่รวบรวมชุดคำสั่งในการจัดการฐานข้อมูล
4.Quick Access Toolbar    à   ญ.แถบเครื่องมือที่รวบรวมเครื่องมือที่ใช้งานบ่อยๆ
5.Ribbon   à  ฌ.ส่วนการทำงานใหม่ที่เข้ามาแทนที่แถบเมนูและแถบเคื่องมือ
6.Navigation Pane    à   ก.แถบในการแสดงออบเจ็กต์ที่สร้างขึ้น
7.Document Window    à   ค.ส่วนของพื้นที่การทำงานของออบเจ็กต์ต่างๆ
8.Query   à    ข.แบบสอบถามข้อมูล
9.Macro   à    ง.ชุดคำสั่งกระทำการต่างๆ ที่นำมารวมกัน
10.Module  à   ฉ .โปรแกรมย่อยที่เขียนขึ้นภาษา VBA

ตอนที่ 3
1.จงอธิบายถึงความหมายของฐานข้อมูล
***ฐานข้อมูล คือข้อมูลจำนวนมากที่มีการจัดเก็บไว้ต่างเป็นระเบียนในลักษณะของตารางข้อมูลแต่ละตารางที่มีอยู่นั้นมีความสัมพันธ์กัน
2.ระบบฐานข้อมูลมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
***1. ลดความซับซ้อนของข้อมูล
2. ทำให้เกิดความสอดคล้องข้อมูล
3. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
4. มีความปลอดภัย
3.ใน Microsoft Access 2007 ประกอบไปด้วยออบเจ็กต์อะไรบ้าง และมีหน้าที่อย่างไร
***1. Table ใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมด
2. Queries ช่วยค้นหาหรือสร้างแบบสอบถามข้อมูล
3. Froms แบบฟอร์มในการทำงาน สำหรับจัดการกับข้อมูลแทนการจัดการในตาราง
4. Reports ใช้ในการสร้างรายงาน
5. Modules ช่วยให้ทำงานกับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้นได้
4.จงอธิบายหลักการออกแบบฐานข้อมูลมาพอเข้าใจ
*** กำหนดวัตถุประสงค์ว่าต้องใช้ข้อมูลเรื่องใด ใช้เพื่อทำอะไร ต้องการอะไร สอบถามความต้องการจากผู้ใช้ วิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นจัดกลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลแต่ละตาราง วิเคราะห์โครงสร้างข้อมูล กำหนดชนิดข้อมูล กำหนดความสัมพันธ์
5.จงยกตัวอย่างระบบงานที่ควรนำ ระบบฐานข้อมูลมาใช้จงอธิบายเหตุผล
***ข้อมูลพนักงาน มีพนักงานในบริษัทแต่ล่ะบริษัทมีพนักงานไม่ต่ำกว่า500คนเราจิงต้องเอา ระบบฐานข้อมูลมาใช้ในการจัดเรียงรายชื่อพนักงาน เช่น ตามตัวอักษร ตามตำแหน่งงาน ตามเงินเดือน เป็นต้น

ฐานข้อมูล หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันและนำมาจัดเก็บในที่เดียวกัน  
ระบบฐานข้อมูล หมายถึง  ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มี ความสัมพันธ์กัน
เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกันรูปแบบเป็นระเบียบแบบแผน และจัดเก็บไว้ในที่เดียวกัน
ระบบจัดการฐานข้อมูล หมายถึง  โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะ ข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่ออำนวยความ    สะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล